ทัวร์ประเทศยอดนิยม
โปรไฟไหม้
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1952_20250221175617.jpg%3Fv%3D123)
ทัวร์แนะนำ
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1849_20250123140843.jpg%3Fv%3D123)
ทัวร์ยอดนิยม
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1953_20250220105407.jpg%3Fv%3D123)

/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1961_20250220112952.jpg%3Fv%3D123)
บทความท่องเที่ยว
ถ้าใครกำลังหา ที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย ที่อากาศดี วิวสวย ถ่ายรูปขึ้นทุกมุม แถมมีครบทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และสวนสนุกในที่เดียว MaxTravel ต้องบอกเลยว่า Bà Nà Hills เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม คือคำตอบที่อยากชวนไปจริง ๆ
บานาฮิลล์คืออะไร?
พูดง่าย ๆ ก็คือ “สวนสนุกบนยอดเขา” ที่ถูกตกแต่งเหมือนเมืองยุโรปในเทพนิยาย ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,400 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกบาง ๆ ลอยผ่านตลอดวัน ฟีลเหมือนอยู่ในฝัน 🍃
สิ่งที่เรารักใน Bà Nà Hills ❤️
🌉 Golden Bridge – สะพานมือยักษ์ในตำนาน
มาถึงแล้ว ต้องไม่พลาด เดินบนสะพานลอยฟ้าที่มี “มือยักษ์หิน” ยื่นออกมารองสะพานไว้เหมือนเทพเจ้ากำลังประคองอยู่ วิวตรงนี้คือสวยมากจนลืมหายใจ…ยิ่งถ้ามีหมอกลอยมาเบา ๆ นะ โรแมนติกขั้นสุดดด
🏰 French Village – เมืองฝรั่งเศสในเวียดนาม
เดินเข้ามาแล้วเหมือนข้ามโลกไปยุโรปทันที ตึกสไตล์โกธิค ถนนหิน โบสถ์กลางเมือง และคาเฟ่เล็ก ๆ เรียงราย เสน่ห์แบบนี้ทำให้ถ่ายรูปได้ทั้งวันไม่มีเบื่อเลย
🚠 นั่งกระเช้าชมวิว – ประสบการณ์ที่ต้องลองสักครั้ง
กระเช้าที่นี่ยาวและสูงมาก ตอนลอยอยู่กลางอากาศ เห็นทั้งป่าเขา น้ำตก และทะเลหมอกที่โอบล้อมรอบตัว รู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในหนังแฟนตาซี
🎡 Fantasy Park – สนุกเหมือนเด็กอีกครั้ง
เป็นสวนสนุกในร่มที่มีทั้งเครื่องเล่น เกม บ้านผีสิง ไปจนถึงโซน Adventure ! เดินเพลิน ๆ ก็กลายเป็นครึ่งวันแบบไม่รู้ตัว เหมาะกับมากับเพื่อน ครอบครัว หรือจะมาเดทก็ฟิน
ทริคเล็ก ๆ ก่อนเดินทาง
- ✈️ จากไทยบินไปดานังแค่ประมาณ 1.5 ชม. แล้วนั่งรถขึ้นเขาอีกราว 45 นาที
- 🎟️ ซื้อตั๋วล่วงหน้าจะดีกว่า ประหยัดเวลาและราคามักดีกว่า
- 📸 เตรียมเมมโมรีกล้องให้พร้อม เพราะทุกมุมมันสวยแบบต้องถ่าย!
สรุปจากใจ 💬
Bà Nà Hills เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว มันคือ ประสบการณ์ ที่ทั้งสนุก สวยงาม และอบอุ่นในแบบที่คุณอาจไม่คาดคิดจากเวียดนาม ที่สำคัญคือเดินทางง่าย ไม่ไกลจากไทย และเหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายผจญภัย หรือสายชิล
ใครได้ไปมาแล้ว แวะมาเล่าให้ฟังด้วยนะ! หรือถ้ายังลังเล…ขอบอกเลยว่า ต้องไปสักครั้ง แล้วจะหลงรักเหมือนเรา 😊
ถ้าพูดถึงแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ชื่อของ Kusatsu Onsen (คุซัตสึ ออนเซ็น) มักติดอันดับต้นๆ เพราะด้วยคุณภาพของน้ำแร่ที่ยอดเยี่ยม ทัศนียภาพธรรมชาติอันสวยงาม และวัฒนธรรมออนเซ็นที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติก็ว่าได้ วันนี้เราจะนำท่านไปรู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่กันเลย!
♨️ เสน่ห์ของ Kusatsu Onsen
คุซัตสึตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ (Gunma) ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของที่นี่คือ น้ำแร่ที่มีความเป็นกรดสูง (pH ประมาณ 2.0) ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและช่วยบำบัดโรคผิวหนัง ปวดกล้ามเนื้อ และช่วยให้ผ่อนคลายอย่างล้ำลึก
🏞️ Yubatake – ใจกลางเมืองออนเซ็น
“Yubatake (ยุบาทาเกะ)” หรือแปลตรงตัวว่า “ทุ่งน้ำร้อน” คือสัญลักษณ์ของเมืองคุซัตสึ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ไหลผ่านรางไม้เพื่อระบายความร้อนก่อนส่งไปยังโรงอาบน้ำต่างๆ บรรยากาศอบอุ่น มีควันลอยปกคลุมตลอดทั้งวัน เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่มีการเปิดไฟสวยงาม
🎭 Netsu-no-Yu และการแสดง Yumomi
หนึ่งในวัฒนธรรมดั้งเดิมของคุซัตสึคือ “Yumomi (ยุโมมิ)” หรือการใช้ไม้พายขนาดใหญ่คนให้น้ำแร่เย็นลงก่อนนำไปใช้อาบ แทนการผสมน้ำเย็น ซึ่งแสดงให้ชมที่ Netsu-no-Yu (เน็ตสึโนะยุ) พร้อมเสียงร้องและการเต้นแบบญี่ปุ่นโบราณ เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
🛀 อาบน้ำผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
- Sainokawara Rotenburo (ไซโนะคาวาระ) – ออนเซ็นกลางแจ้งขนาดใหญ่ในสวนสาธารณะ ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้
- ออนเซ็นสาธารณะหลายแห่งเปิดให้เข้าใช้ฟรี เช่น Shirahata no Yu, Chiyo no Yu
- รีสอร์ทและเรียวกังมากมายมีออนเซ็นส่วนตัว พร้อมอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศให้ลิ้มลอง
🍡 เที่ยวกินและเดินเล่น
- ลองชิม ออนเซ็นมันจู ขนมญี่ปุ่นที่อบด้วยไอน้ำแร่ ร้อนๆ หอมๆ
- เดินเล่นในเมืองออนเซ็นที่ตกแต่งด้วยสไตล์ย้อนยุค
- แวะชมร้านค้าท้องถิ่น งานฝีมือ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
🗻 เดินทางท่ามกลางธรรมชาติ
- ภูเขา Shirane (Shirane-san) อยู่ใกล้เมือง เหมาะสำหรับนักเดินป่าหรือขึ้นกระเช้าชมวิว
- หน้าหนาวยังเป็นจุดเล่นสกีที่มีชื่อเสียง
🚌 การเดินทางจากโตเกียว
- 🚄 นั่งรถไฟ JR จากสถานี Ueno → ลงที่ Naganohara-Kusatsuguchi → ต่อรถบัสประมาณ 25 นาที
- 🚌 รถบัสด่วนจากสถานี Shinjuku ตรงถึงคุซัตสึ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
📅 เที่ยวได้ทั้งปี
- ❄️ ฤดูหนาว: แช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะ
- 🍁 ฤดูใบไม้ร่วง: ชมใบไม้เปลี่ยนสี
- 🌸 ฤดูใบไม้ผลิ–ร้อน: หนีร้อนจากเมืองใหญ่ มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ในภูเขา
สรุป
Kusatsu Onsen คือจุดหมายที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และการพักผ่อนอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมการดูแลสุขภาพและจิตใจไปพร้อมกัน

ใครที่จองตั๋วมาเที่ยวจีนแบบต้องต่อเครื่องภายในประเทศจีน ตรวจสอบพาวเวอร์แบงค์ของตนเองที่จะพกมาด่วนค่ะ
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ห้ามนำพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่มีเครื่องหมาย “3C” (China Compulsory Certification) ตัวย่อคือ CCC เครื่องหมาย 3C ไม่ชัดเจน หรือพาวเวอร์แบงก์ที่อยู่ในกลุ่มที่ถูกเรียกคืน ขึ้นเที่ยวบินภายในประเทศจีนทุกสายการบินมีผลบังคับใช้ วันที่ 28 มิถุนายยน 2568 หากพบว่าไม่มีเครื่องหมาย 3C ชัดเจน หรืออยู่ในรายชื่อสินค้าที่เคยถูกเรียกคืนมาก่อน อาจถูกห้ามนำขึ้นเครื่องทันที โดยในสนามบินมีจุดบริการให้ “ทิ้ง” หรือฝากพาวเวอร์แบงก์ก่อนขึ้นเครื่อง เป็นมาตรการที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารและป้องกันเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อาจเกิดจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน
ส่วนใหญ่พาวเวอร์แบงค์ที่มีเครื่องหมาย CCC ส่วนมากจะเป็นแบรนด์ที่มีการผลิตและจำหน่ายในประเทศจีน หรือแบรนด์ต่างชาติที่มีโรงงานผลิตในจีนและวางขายในตลาดจีนอย่างเป็นทางการ
คำแนะนำ
- ควรตรวจสอบว่าพาวเวอร์แบงค์ของคุณมีเครื่องหมาย 3C ชัดเจนหรือไม่
- หากพาวเวอร์แบงก์ไม่มี 3C สัญลักษณ์ไม่ชัดเจน หรือเป็นรุ่นที่ถูกห้าม ควรเปลี่ยนใหม่ก่อนเดินทาง
อ้างอิง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) , ไอที 24 ชั่วโมง

คนโสดเตรียมสละโสด มีคนโปรดเตรียมสมหวัง คนมีคู่ความรักยืนยาว หากใครที่กำลังมีแพลนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นและอยากมีความรักปังๆ คนญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่องการขอพรความรักที่ศาลเจ้า วันนี้เราก็มี 5 ศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรความรัก มานำเสนอ เพื่อนๆ เตรียมจดได้เลย!!!
1.ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine)

ศาลเจ้าโคอิโนะคิ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุโอกะ เป็นที่ประดิษฐาน “โคอิโนมิโคโตะ (Koi-no-Mikoto)” เทพเจ้าแห่งความรัก เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าจะช่วยนำพาให้ได้พบพานกับความรักความสัมพันธ์ที่ดีและมีความสุขสมหวังในเรื่องของความรัก ทางเดินไปสู่ตัวศาลเจ้ามีชื่อเรียกว่า “ทางเดินแห่งรัก” เพราะปูพื้นทางเดินด้วยแผ่นกระเบื้องรูปหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นตราประจำวิหาร เครื่องราง แผ่นเซียมซี หรือแผ่นเอะมะ ที่มีไว้สำหรับเขียนคำอธิษฐานล้วนออกแบบเป็นรูปหัวใจ นอกจากจะมีความศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีความน่ารักเพราะทั่วทั้งศาลเจ้าเต็มไปด้วยรูปหัวใจ ถ่ายรูปออกมาสวย น่ารักสุดๆ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JDqt2dc57TQmJSAt7

2.ศาลเจ้าอิมะโดะ (Imado Shrine)

ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวันเซนโซจิ ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กลางกรุงโตเกียว จุดเด่นของศาลเจ้าคือมีแมวกวัก หรือมาเนกิเนะโกะ ตั้งอยู่ทั่วทั้งศาลเจ้า ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรเรื่องความรัก มีแมวกวักคู่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการครองคู่ สามารถขอพรโดยการเขียนคำอธิษฐานลงบนป้ายเอมะ แล้วนำไปแขวนในจุดที่กำหนด ใครที่อยากสละโสดขอให้เจอคู่ ก็ให้เขียนคำขอบนแผ่นรูปแมวกวัก 2 ตัว ส่วนใครที่สมหวังไปแล้ว ก็ให้มาเขียนบอกเทพเจ้าบนแผ่นรูปแมวกวักแต่งงาน ถ้ายังไม่หนำใจที่ศาลเจ้านี้ก็ยังมีเครื่องรางแบบพกพาให้ซื้อกลับไป เป็นเครื่องรางรูปแมวกวัก ซึ่งมีหลายรูปแบบให้ได้เลือกเก็บสะสม
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/gTwEWD4fpDHJSAK96

3.ศาลเจ้าฟุตะมิโอะคิตามะ – มิเอะ (Futami Okitama Shrine)

เป็นศาลเจ้าชินโต ตั้งอยู่บริเวณอ่าวฟูตามิ ของจังหวัดมิเอะ ที่นี่จะมีจุดเด่นคือ เมะโอะโทะอิวะ (Meoto Iwa) หรือ หินแต่งงาน เป็นหิน 2 ลูกตั้งอยู่ในทะเล โดยมีเชือก Oshimenawa เชื่อมคล้องกันเอาไว้ คล้ายกับด้ายมงคลของคู่บ่าวสาวแสดงถึงความรักใคร่ปรองดองระหว่างคู่สามีภริยา นอกจากจะได้ชมความสวยงามโรแมนติกแล้วหินแต่งงานนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนมักนิยมมาอธิษฐานขอพรหินแต่งงานนี้เพื่อให้มีชีวิตสมรสที่มีความสุข และครองคู่กันให้ยาวนานเหมือนกับหินทั้ง 2 ก้อนนี้ เครื่องรางของที่นี่มีลวดลายดีไซน์ตามหินคู่สวยงามมีหลากหลายสีสำหรับพกพาติดตัวได้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SuriGcedZXX4QvUG9

4.ศาลเจ้าทะมัตสึคุริ อินาริ (Tamatsukuri Inari Shrine)

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในโอซาก้าและยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการจัดพิธีแต่งงานของคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าที่ศาลเจ้านี้มีเทพเจ้าผู้พิทักษ์ปกป้องปราสาทโอซาก้าสถิตอยู่และมีชื่อเสียงเรื่องขอพรให้สมหวังในความรัก วิธีการขอพรคือ เขียนขอพร โดยให้เขียนชื่อลงไปที่ด้านหลังของป้ายขอพรเอมะรูปสุนัขจิ้งจอกนั่งเข้าหากันเป็นรูปหัวใจ ผู้ชายให้เขียนฝั่งสุนัขจิ้งจอกตัวผู้ (ตัวใหญ่) ส่วนผู้หญิงให้เขียนหลังสุนัขจิ้งจอกตัวเมีย (ตัวเล็ก) เขียนคำอธิษฐานและวันที่ด้านล่าง แล้วนำไปแขวนเพื่อส่งสารให้เทพเจ้ารับรู้และมอบพรให้นั่นเอง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NdaFC4UCG6RKNRj27

5.ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine)

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ มีประวัติยาวนานถึง 1,800 ปี ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เทพเจ้าวาคะฮิรุเมะ โนะ มิโคะโตะ เป็นเทพเจ้าแห่งการถักทอ ซึ่งสามารถสื่อถึงสายสัมพันธ์ของคู่รักให้แน่นแฟ้นได้เช่นกัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้าน “ความรัก” ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและเป็นสถานที่ขอพรของชาวเมืองโกเบ จุดเด่นของศาลเจ้านี้ที่ห้ามพลาด คือ กระดาษคำทำนายรักซึ่งซื้อได้ที่ศาลเจ้านำกระดาษไปลอยน้ำในบ่อน้ำเล็ก ๆ จากนั้นข้อความคำทำนายจะค่อย ๆ ปรากฏออกมาให้เห็น สำหรับป้ายขอพรของศาลเจ้าอิคุ จะเป็นรูปหัวใจสีชมพู เป็นที่นิยมของวัยรุ่นเป็นอย่างมาก นอกจากการขอความรักแล้ว การขอพรเรื่องการมีลูกและสุขภาพก็เป็นที่นิยมเช่นกันเครื่องรางของที่นี่คือเชือกผูกข้อมือหรือ ทามะกิ สามารถนำมาผูกข้อมือได้โดยมีความเชื่อว่าจะสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับคนที่ชอบ คนรอบข้าง หรือแม้แต่การติดต่อธุรกิจก็จะดีขึ้น
พิกัด : https://goo.gl/maps/hTMjh6hgF3kxEbgR7


วันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาเกาหลีได้มีการประกาศกฎหมายห้ามใช้ หรือ ชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน เนื่องมาจากเหตุการ์ณไฟไม้บนเครื่องบิน ของ สายการบิน AIR BUSAN ซึ่งสาเหตุมาจาก พาวเวอร์แบงก์ระเบิด สายการบินทั่วโลกจึงออกกฎใหม่และประเทศเกาหลีก็เป็นหนึ่งในนั้น “กฎนี้มีผลกับทุกสายการบินของเกาหลีใต้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร
สาเหตุที่ ห้ามใช้ หรือ ชาร์จ พาวเวอร์เเบงก์ บนเครื่องบิน
ใน พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) นั้นมีมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิด ความร้อนสูง และอาจจะทำให้เกิดการลุกไหม้หรือระเบิดได้หากเกิดความเสียหายจากการใช้งานที่ไม่ได้ถูกวิธีหรือ พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ได้มาตรฐานอีกทั้งยังมีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ ที่มาจาก อุณหภูมิและความดันอากาศที่ต่างจากภาคพื้นดินอย่างสิ้นเชิงทำให้ตัวพาวเวอร์แบงค์อาจจะเกิดคสามร้อนขึ้นได้ หรือจะมาจาก การเก็บที่ผิดวิธี การใส่พาวเวอร์แบงก์ไว้ในกระเป๋าที่ถูกกระแทกไปมา หากแบตเตอรี่ถูกกดทับหรือได้รับแรงกระแทกอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วทำให้ไฟไหม้ได้ในที่สุด และที่สำคัญที่สุด การชาร์จไฟพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่เสถียร หากใช้ปลั๊กไฟบนเครื่องบินชาร์จพาวเวอร์แบงก์ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และก็ให้เกิดไฟไหม้ได้
ข้อกำหนดทั่วไปในการนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่อง
ข้อกำหนดของ IATA (International Air Transport Association) การนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องบินต้องเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้
- ความจุไม่เกิน 20,000 mAh (100 Wh) → สามารถนำขึ้นเครื่องได้
- ความจุ 20,000 – 32,000 mAh (100 – 160 Wh) → นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- ความจุเกิน 32,000 mAh (160 Wh) → ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้เด็ดขาด
- ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
- ต้องพกติดตัวเสมอ
รายชื่อสายการบินที่ห้ามใช้พาวเวอร์แบงก์บนเครื่องบิน
สายการบินเกาหลีใต้
- Korean Air
- Asiana Airlines
- Jeju Air
- Jin Air
- Air Busan
- Air Seoul
- T’way Air Premia
- Eastar Jet
สายการบินไต้หวัน
- EVA Air
- China Airlines
- STARLUX Airlines
- Tigerair Taiwan
- UniAir
สายการบินออสเตรเลีย
- Virgin Australia
- Qantas
สายการบินไทย
- Thai Airways
สายการบินสิงค์โปร
- Singapore Airlines
- Scoot
สายการบินฮ่องกง
- Cathay Pacific
- Hongkong airlines
การเตรียมตัวเรื่องพาวเวอร์แบงก์ก่อนขึ้นเครื่อง
- ตรวจสอบว่าเพาเวอร์แบงค์มีการบอกรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่น ยี่ห้อ ขนาดบรรจุ
- ตรวจสอบสัญลักษณ์มาตรฐาน เช่น CE, FCC, RoHS, มอก.
- ห้ามใช้บนเครื่องบิน
- ห้ามเก็บไว้ในตู้สัมภาระ
ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เตรียมตัวแค่กระเป๋าเสื้อผ้า ของใช้ เอกสารยังไม่พอ ต้องศึกษาข้อมูล กฎระเบียบ และสิ่งของที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องพกยา ควรเช็คและระวังเป็นอย่างยิ่ง จะได้เตรียมตัวให้พร้อมอย่างถูกต้องแบบไม่ทำผิดกฎหมาย วันนี้ แม็กซ์ทราเวลจะพาทุกคนไปรู้ 11 ตัวยาที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ
ปัจจุบันมีข้อกำหนดว่าห้ามนำยาบางประเภทเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเตือนยา 11 ชนิด ที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นเด็ดขาด เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้าม ผิดกฎหมายของญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำเข้ายาที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ไม่ว่าจะนำไปใช้เพื่อรักษาตัวหรือใช้ทางการแพทย์ และหากตรวจพบจะถูกยึดและดำเนินคดีทันที โดยบรรเทารักษาอาการเจ็บป่วยใน 2 กลุ่มอาการ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน (Pseudoefedrin) จำพวกยาบรรเทาอาการหวัด แก้แพ้ ลดน้ำมูก
1.TYLENOL COLD
2.SUDAFED
3.ADVIL COLD & SINUS
4.ACTIFED
5.DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
6.DRISTAN SINUS
7.DRIXORAL SINUS
8.NYQUIL (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
9.NYQUIL LIQUICAPS (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
10.VICKS INHALER (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
กลุ่มที่ 2 ยาแก้ท้องเสีย ที่มีการยกเลิกขึ้นทะเบียนในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากมีสารไดเฟรอกไซเลต(diphenoxylate) เป็นส่วนประกอบจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 3
11.LOMOTIL
ยา 11 รายการนี้ส่วนใหญ่ไม่มีวางขายในประเทศไทย หรือบางตัวก็ถูกห้ามขายในประเทศไทยแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเดินทางเพื่อความชัวร์และเดินทางได้อย่างสบายใจค่ะ
นอกจากนี้ ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือท่านที่ต้องการพกยารักษาโรคเข้าประเทศญี่ปุ่น มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ยารักษาที่มีใบสั่งแพทย์ ต้องนำใบสั่งแพทย์นั้นติดตัวไปด้วย
2. ยาต้องอยู่ในแผงยา หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อแสดงรายละเอียดของยาแก่เจ้าหน้าที่
3. จำนวนของยาจำเป็นที่ติดตัวได้ ต้องใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน
4. กลุ่มยาต้องห้าม ที่เป็นกลุ่มเดียวกับยาเสพติด (มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท หรือ ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง) เช่น โคเดอีน (Codeine) มอร์ฟีน เมทาโดน อันเป็นยาที่แพทย์จ่ายภายใต้การควบคุมอยู่ ต้องขออนุญาตนำออกจากประเทศไทยและทั้งมีใบสั่งแพทย์ถูกต้อง
5. ยากลุ่มยานอนหลับเช่น Diazepam, Lorazepam และกลุ่มยารักษาโรคเครียด เช่น Fluoxetine เป็นกลุ่มยาที่ควรระวังในการพกพา
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีระบบการตรวจสอบการนำเข้ายาอย่างเข้มงวด ทั้งยาที่นำมาด้วยตัวเอง ทางเครื่องบินโดยสาร หรือยาที่ส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์