ทัวร์ประเทศยอดนิยม
โปรไฟไหม้
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1952_20250221175617.jpg%3Fv%3D123)
ทัวร์แนะนำ
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1849_20250123140843.jpg%3Fv%3D123)
ทัวร์ยอดนิยม
/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1953_20250220105407.jpg%3Fv%3D123)

/https%253A%252F%252Fwww.zegotravel.com%252Fimages%252Fimage_programtour%252F1961_20250220112952.jpg%3Fv%3D123)
บทความท่องเที่ยว
วันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาเกาหลีได้มีการประกาศกฎหมายห้ามใช้ หรือ ชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน เนื่องมาจากเหตุการ์ณไฟไม้บนเครื่องบิน ของ สายการบิน AIR BUSAN ซึ่งสาเหตุมาจาก พาวเวอร์แบงก์ระเบิด สายการบินทั่วโลกจึงออกกฎใหม่และประเทศเกาหลีก็เป็นหนึ่งในนั้น “กฎนี้มีผลกับทุกสายการบินของเกาหลีใต้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร
สาเหตุที่ ห้ามใช้ หรือ ชาร์จ พาวเวอร์เเบงก์ บนเครื่องบิน
ใน พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) นั้นมีมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิด ความร้อนสูง และอาจจะทำให้เกิดการลุกไหม้หรือระเบิดได้หากเกิดความเสียหายจากการใช้งานที่ไม่ได้ถูกวิธีหรือ พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ได้มาตรฐานอีกทั้งยังมีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ ที่มาจาก อุณหภูมิและความดันอากาศที่ต่างจากภาคพื้นดินอย่างสิ้นเชิงทำให้ตัวพาวเวอร์แบงค์อาจจะเกิดคสามร้อนขึ้นได้ หรือจะมาจาก การเก็บที่ผิดวิธี การใส่พาวเวอร์แบงก์ไว้ในกระเป๋าที่ถูกกระแทกไปมา หากแบตเตอรี่ถูกกดทับหรือได้รับแรงกระแทกอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วทำให้ไฟไหม้ได้ในที่สุด และที่สำคัญที่สุด การชาร์จไฟพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่เสถียร หากใช้ปลั๊กไฟบนเครื่องบินชาร์จพาวเวอร์แบงก์ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และก็ให้เกิดไฟไหม้ได้
ข้อกำหนดทั่วไปในการนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่อง
ข้อกำหนดของ IATA (International Air Transport Association) การนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องบินต้องเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้
- ความจุไม่เกิน 20,000 mAh (100 Wh) → สามารถนำขึ้นเครื่องได้
- ความจุ 20,000 – 32,000 mAh (100 – 160 Wh) → นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- ความจุเกิน 32,000 mAh (160 Wh) → ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้เด็ดขาด
- ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
- ต้องพกติดตัวเสมอ
รายชื่อสายการบินที่ห้ามใช้พาวเวอร์แบงก์บนเครื่องบิน
สายการบินเกาหลีใต้
- Korean Air
- Asiana Airlines
- Jeju Air
- Jin Air
- Air Busan
- Air Seoul
- T’way Air Premia
- Eastar Jet
สายการบินไต้หวัน
- EVA Air
- China Airlines
- STARLUX Airlines
- Tigerair Taiwan
- UniAir
สายการบินออสเตรเลีย
- Virgin Australia
- Qantas
สายการบินไทย
- Thai Airways
สายการบินสิงค์โปร
- Singapore Airlines
- Scoot
สายการบินฮ่องกง
- Cathay Pacific
- Hongkong airlines
การเตรียมตัวเรื่องพาวเวอร์แบงก์ก่อนขึ้นเครื่อง
- ตรวจสอบว่าเพาเวอร์แบงค์มีการบอกรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่น ยี่ห้อ ขนาดบรรจุ
- ตรวจสอบสัญลักษณ์มาตรฐาน เช่น CE, FCC, RoHS, มอก.
- ห้ามใช้บนเครื่องบิน
- ห้ามเก็บไว้ในตู้สัมภาระ
ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เตรียมตัวแค่กระเป๋าเสื้อผ้า ของใช้ เอกสารยังไม่พอ ต้องศึกษาข้อมูล กฎระเบียบ และสิ่งของที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องพกยา ควรเช็คและระวังเป็นอย่างยิ่ง จะได้เตรียมตัวให้พร้อมอย่างถูกต้องแบบไม่ทำผิดกฎหมาย วันนี้ แม็กซ์ทราเวลจะพาทุกคนไปรู้ 11 ตัวยาที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ

ปัจจุบันมีข้อกำหนดว่าห้ามนำยาบางประเภทเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเตือนยา 11 ชนิด ที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นเด็ดขาด เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้าม ผิดกฎหมายของญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำเข้ายาที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ไม่ว่าจะนำไปใช้เพื่อรักษาตัวหรือใช้ทางการแพทย์ และหากตรวจพบจะถูกยึดและดำเนินคดีทันที โดยบรรเทารักษาอาการเจ็บป่วยใน 2 กลุ่มอาการ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน (Pseudoefedrin) จำพวกยาบรรเทาอาการหวัด แก้แพ้ ลดน้ำมูก
1.TYLENOL COLD
2.SUDAFED
3.ADVIL COLD & SINUS
4.ACTIFED
5.DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
6.DRISTAN SINUS
7.DRIXORAL SINUS
8.NYQUIL (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
9.NYQUIL LIQUICAPS (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
10.VICKS INHALER (ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย)
กลุ่มที่ 2 ยาแก้ท้องเสีย ที่มีการยกเลิกขึ้นทะเบียนในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากมีสารไดเฟรอกไซเลต(diphenoxylate) เป็นส่วนประกอบจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 3
11.LOMOTIL
ยา 11 รายการนี้ส่วนใหญ่ไม่มีวางขายในประเทศไทย หรือบางตัวก็ถูกห้ามขายในประเทศไทยแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเดินทางเพื่อความชัวร์และเดินทางได้อย่างสบายใจค่ะ
นอกจากนี้ ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือท่านที่ต้องการพกยารักษาโรคเข้าประเทศญี่ปุ่น มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ยารักษาที่มีใบสั่งแพทย์ ต้องนำใบสั่งแพทย์นั้นติดตัวไปด้วย
2. ยาต้องอยู่ในแผงยา หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อแสดงรายละเอียดของยาแก่เจ้าหน้าที่
3. จำนวนของยาจำเป็นที่ติดตัวได้ ต้องใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน
4. กลุ่มยาต้องห้าม ที่เป็นกลุ่มเดียวกับยาเสพติด (มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท หรือ ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง) เช่น โคเดอีน (Codeine) มอร์ฟีน เมทาโดน อันเป็นยาที่แพทย์จ่ายภายใต้การควบคุมอยู่ ต้องขออนุญาตนำออกจากประเทศไทยและทั้งมีใบสั่งแพทย์ถูกต้อง
5. ยากลุ่มยานอนหลับเช่น Diazepam, Lorazepam และกลุ่มยารักษาโรคเครียด เช่น Fluoxetine เป็นกลุ่มยาที่ควรระวังในการพกพา
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีระบบการตรวจสอบการนำเข้ายาอย่างเข้มงวด ทั้งยาที่นำมาด้วยตัวเอง ทางเครื่องบินโดยสาร หรือยาที่ส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์